วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วันตรุษจีน






ประวัติ วันตรุษจีน




Dino-Lite กล้องจุลทรรศน์พกพา รางวัลยอดเยี่ยมโลก

   
"ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้

ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ"
 
 
ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย
ความรู้เกี่ยวกับ "วันตรุษจีน"
      นับเป็นประเพณีนิยม ในวันตรุษจีน ที่เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชนชาติจีนแผ่นดินใหญ่และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน    นั่นแสดงว่าเป็นสัญญาณอันดีที่จะมีงานรื่นเริง การสวมใสเสื้อสีแดงสด อันเป็นสีที่เป็นศิริมงคลของพี่น้องชาวจีน อาจจะบอกดว่าเป็นวันครอบครัว ที่จะได้พบปะสังสรรค์ กินเลี้ยงอย่างมีความสุข ...อันเป็นวันที่เปี่ยมไปด้วยการให้ทาน การทำบุญทำกุศล  หรือแม้กระทั่งที่วัดจีนประชาสโมสร  ก็มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ทำทานในวันขึ้นปีใหม่  นำมาซึ่งความปิติ-มีความสุขเปี่ยมล้น  มีผลทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต ทำงาน-ค้าขายให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป...
เทศกาลจีนมีอยู่มากมาย ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน ในปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2546 เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ทุกคนต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่างหยุดงาน โรงเรียนสถาบันการศึกษาต่างปิดเทอมในช่วงนี้ เป็นปิดเรียนฤดูหนาว ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่ไม่สามารถหยุดงานได้ หน่วยงานห้างร้านต่างก็หยุดงาน 3-4 วัน เมื่อใกล้วันปีใหม่จีน ผู้คนต่างก็มีการตระเตรียมงานปีใหม่ ภายในครอบครัว ทุกบ้านก็จะทำความสะอาดบ้านเรือน ผ่านปีใหม่อย่างสะอาดสะอ้านสดใส ร้านค้าห้างสรรพสินค้าต่างก็เติมไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แก่เด็กๆ ซื้อของขวัญให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย ซื้อบัตรอวยพร ในตลาดก็คราคร่ำไปด้วยผู้คน ต่างเดินไปเดินมากันขวักไขว่ ซื้อปลาบ้าง ซื้อเนื้อสัตว์บ้าง ซื้อเป็ดไก่บ้าง ทุกคนต่างดูแจ่มใสมีความสุข ช่วงเทศกาลปีใหม่ เด็กๆต่างมีความสุขมาก ต่างสวมเสื้อใหม่ ทานลูกกวาดขนมหวาน เล่นพลุประทัดอย่างรื่นเริง
          คืนก่อนวันปีใหม่ คือวันสุดท้ายของปีนั่นเองเป็นคืนที่ครึกครื้นที่สุด ใครที่ไปทำงานห่างจากบ้านเกิด ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลองวันปีใหม่ที่บ้าน ตอนกินอาหารมื้อค่ำคืนก่อนขึ้นปีใหม่จีน ทุกคนในครอบครัวต่างนั่งกันพร้อมหน้าล้อมโต๊ะอาหาร ต่างชนแก้วอวยพรปีใหม่กัน ทานมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว บางคนก็ดูทีวี บางคนก็ฟังเพลง บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็เล่นหยอกล้อกับเด็กๆ บ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะเริ่มทำเกี๊ยว (เจี้ยวจึ) คนจีนทางใต้ ก็จะปั้นลูกอี๋ทำน้ำเชื่อม ทำไป ชิมไปทานไป ครึกครื้นอย่างยิ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นแต่เช้า ทุกคนจะตื่นแต่เช้า เยี่ยมเพื่อนบ้าน เพื่อนฝูงอวยพรปีใหม่
ประวัติวันตรุษจีน หรือปีใหม่จีน
          ประวัติของวันขึ้นปีใหม่ของจีนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่เราหวังว่าจะได้ปรับปรุง หรือที่เราคิดทำเมื่อเริ่มต้นในปีใหม่ มาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ถูกลืมก็ถูกยัดลงกล่องใส่ตู้ปิดตายและแปะหน้าตู้ว่าไม่แน่ เอาไว้ทำปีหน้าแล้วกันอย่างไรก็ดี ความหวังก็คงยังไม่สูญไปทั้งหมดเพราะโอกาสที่สองกำลังมาถึงแล้ว กับการฉลองวันปีใหม่จีนหรือที่เรารู้จักกันว่า ตรุษจีนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นั้นเอง
          ตรุษจีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกว่าศตวรรษ จริงๆแล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร เป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูก ทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่างหน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูก ประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืนเป็นต้น
          วันก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไปถือวันที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆกัน อาหารอันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง
          เมื่อถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า
"Let bygones be bygones"
(อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป) ในวันตรุษนี้ อารมณ์โมโหโกรธาจะถูกลืม และไม่สนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ ซึ่งฉลองโดยการร้องเพลง เต้นรำ และงานแสดงโคมไฟ ถึงแม้ว่าการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ และความสุขให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน
อาหารไหว้เจ้า
          ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆมีความหมายที่เป็น มงคลในตัวของมันเม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชายเกาลัด - มีความหมายถึง เงิน สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวยเต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุขหน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์          อาหารอื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
ทางตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน
 
ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่
หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี
วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆ สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล
บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี
การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก
ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็ยังคงยึดถือ และปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น ครอบครัวและเอกลักษณ์ ของตน
15 วันแห่งการฉลองตรุษจีนวันแรกของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน
วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิดวันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตนวันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่ายวันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุขวันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จวันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน วันที่สิบสามถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกายวันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน
                         
วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) ถือเป็นเทศกาลใหญ่ ที่ประหนึ่งรวมเทศกาลวันตรุษ และอาจรวมเทศกาลไหว้สิ้นปี เข้ากับเทศกาลวันตรุษ ซึ่งจะต่างกับวันไทย และวันสากล ในขณะที่วันของไทย เป็นวันข้างขึ้น และข้างแรม เดือนหนึ่งมี 30 วัน ของจีนจะเป็นเดือนสั้น และเดือนยาว เดือนสั้นมี 29 วัน เดือนยาวมี 30 วัน
วันจีนจะช้ากว่าวันข้างขึ้น ข้างแรม ในปฏิทินอยู่ 2 เดือน ยกตัวอย่าง วันไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันที่ 15 เดือน 8 เมื่อดูในปฎิทินจะเป็นขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 หรือสมมติว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2535 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 2 ก็คิดกลับเป็นวันจีนจะเป็นวันที่ 8 เดือน 12 จากนั้นนับต่อจากวันที่ 8 ไปเป็นวันที่ 9 เดือน 12 ของจีน คือ วันที่ 1 มกราคม 2536 นับไปเรื่อยๆ จนครบวันที่ 30 เดือน 12 ของจีน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2536 ของไทย ดังนั้นวันตรุษจีน คือ วันที่ 1 เดือน 1 ของจีน ก็จะตรงกับวันที่ 23 มกราคม 2536

  • วันตรุษจีน 2544 ตรงกับวันที่ 24 มกราคม 2544



  • วันตรุษจีน 2545 ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2545



  • วันตรุษจีน 2546 ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2546



  • วันตรุษจีน 2547 ตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2547



  • วันสิ้นปีจะมีการไหว้ หลายอย่าง นิยมเรียกว่า "วันไหว้"



  • มักเรียกวันก่อนหน้าวันไหว้ว่า "วันจ่าย" เพราะเป็นวันสุดท้ายที่จะจับจ่ายซื้อของไหว้ของใช้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าจะปิดธุรกิจหลายวัน



  • การไหว้ตรุษจีนจะนิยมเรียกกันว่า "วันชิวอิด" แปลว่า วันที่ 1 มีความน่าสนใจตรงที่ว่า คนจีนจะไหว้ "ไช้ซิ้งเอี๊ย" หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ"ในเวลากลางดึกเมื่อเวลาย่างเข้าวันตรุษหรือวันชิงอิดไช้ แปลว่า โชคซิ้ง และเอี๊ย แปลว่า เจ้านอกจากนี้เวลาไหว้ยังมีฤกษ์ยาม และทิศที่จะตั้งโต๊ะไหว้ ยังเป็นทิศ และเวลาเฉพาะในแต่ละปี เพื่อความเป็นสิริมงคล ของไหว้จะไหว้ง่ายๆ ด้วยส้ม และโหงวเส็กทึ้งกับนำชาส้ม คนจีนเรียกว่า กา หรือ "ไต้กิก" แปลว่า โชคดี เพื่ออวยพรให้ลูกหลานโชคดี และใช้ให้เป็นของขวัญ...นำโชคมามอบให้แก่กันโหงวเส็กทึ้ง แปลว่า ขนม 5 สี ได้แก่ ถั่วตัด งาตัด ข้าวพอง ถั่วเคลือบน้ำตาล และฟักเชื่อม บางทีก็เรียกว่า "ขนมจันอับ" หรือ "แต่เหลียง"บางบ้านมีการไหว้อาหารเจแห้ง ให้แก่บรรพบุรุษด้วยบางบ้านนิยมเปิดไฟไว้ที่ศาลเจ้าที่ "ตี่จู่เอี๊ย" เพื่อรอรับวันที่เจ้าที่จะเสด็จกลับลงมาจากสวรรค์ในวันที่ 4 เดือน 1 ของจีน



  • ในวันตรุษจีน หรือวันชิวอิด ในหมู่คนจีนจะทราบกันว่า นี่คือ "วันถือ" ถือที่จะทำในสิ่งที่ดี และไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่สวยงาม ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดแต่ "หออ่วย" แปลว่า คำดีๆ ไม่อารมณ์เสียหงุดหงิด ไม่ทำงานหนัก เพื่อที่ว่าตลอดปีจะได้ไม่ต้องทำงานหนักนัก ไม่กวาดบ้าน เพราะอาจปัดสิ่งดีๆ มีมงคลออกไป แล้วกวาดความไม่ดีเข้ามา เริ่มต้นเช้าวันตรุษ คนในบ้านก็จะทักทายกันด้วยคำอวยพร "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" หมายถึง เวลาใหม่ให้สมใจ ปีใหม่ให้สมปรารถนา



  • อั้งเปา" ในวันตรุษจีน มีคำจีนโบราณเรียกว่า "เอี๊ยบซ้วยจี๊" เป็นเงินสิริมงคลที่ผู้ใหญ่ให้แก่ลูกหลาน เพื่ออวยพรให้มีสุขภาพแข็งแรง และเจริญก้าวหน้า



  • ธรรมเนียมหนึ่งในวันตรุษจีนคือการไป "ไป๊เจีย" หรือการไปไหว้ขอพร และอวยพรผู้ใหญ่ หรือญาติมิตร โดยส้มสีทอง 4 ผลห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าผู้ชาย ที่นิยมใช้กันแต่ส้มสีทอง ไม่ใช้ส้มเขียว เพราะสีทองเป็นสีมงคล ทองอร่ามเรืองจะอวยพรให้รุ่งเรืองเช่นเดียวกับส้ม ที่คนจีนเรียกว่า ไต้กิก แปลว่า โชคดี ส้มสีทองที่มอบแก่กันคือ นัยอวยพรให้ "นี้นี้ไต้กิก" แปลว่า ทุกๆ ปีให้โชคดีตลอดไปส้มสีทอง 4 ใบ เมื่อเจ้าบ้านรับไป จะเป็นการรับไปเปลี่ยนว่าเปลี่ยนส้ม 2 ใบของแขกกับ 2 ใบของที่บ้าน แล้วคืนส้ม 4 ใบคืน ให้แขกนำกลับไป 2 ใบของที่บ้าน แล้วคืนส้ม 4 ใบ คืนให้แขกนำกลับไป หมายถึง การที่ต่างฝ่าย ต่างให้โชคดีแก่กัน



  • การติดฮู้ เป็นธรรมเนียมที่นิยมถือทำในวันตรุษจีน เช่น การติด "ฮู้" หรือยันต์แผ่นใหม่ เพื่อคุ้มครองบ้าน ติด "ตุ้ยเลี้ยง" หรือแผ่นคำอวยพรที่ปากทางเข้าบ้าน ไหว้เจ้าการไหว้เจ้าเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ลูกหลานจีนปฏิบัติสืบทอดกันมา ตามความเชื่อที่จะต้องไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษ เพื่อให้เป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุข ความเจริญแก่ครอบครัว

    ในปีหนึ่งมีการไหว้เจ้า 8 ครั้ง เรียกว่า โป๊ยโจ่ย แปลว่า 8 เทศกาล ดังนี้



  • ไหว้เดือน 1 วันที่ 1 (เป็นการกำหนดวันทางจันทรคติของจีน) คือ ตรุษจีน เรียกว่า ง่วงตั้งโจ่ย



  • ไหว้เดือน 1 วันที่ 15 เรียกว่า ง่วงเซียวโจ่ย



  • ไหว้เดือน 3 วันที่ 4 เรียกว่า ไหว้เช็งเม้ง เป็นประเพณีที่ลูกหลานไปไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้ย



  • ไหว้เดือน 5 วันที่ 5 เรียกว่า โหงวเหว่ยโจ่ย เป็นเทศกาลไหว้ขนมจ้าง



  • ไหว้เดือน 7 วันที่ 15 คือ ไหว้สารทจีน เรียกว่า ตงง้วงโจ่ย



  • ไหว้เดือน 8 วันที่ 15 เรียกว่า ตงชิวโจ่ย ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีว่า ไหว้พระจันทร์



  • ไหว้เดือน 11 ไม่กำหนดวันแน่นอน เรียกว่า ไหว้ตังโจ่ย



  • ไหว้เดือน 12 วันสิ้นปี เรียกว่า ไหว้สิ้นปี หรือ ก๊วยนี้โจ่ย นอกจากนี้บางบ้านยังมีการไหว้พิเศษ คือการไหว้เทพยดาที่ตนเองเคารพนับถือ เช่น



  • ไหว้เทพยดาฟ้าดิน เช่นการไหว้วันเกิดเทพยดา ฟ้าดิน เรียกว่า ทีกงแซ หรือ ทีตี่แซ ตรงกับวันที่ 9 เดือน 1 ของจีน



  • ไหว้อาเนี๊ยแซ คือไหว้วันเกิดเจ้าแม่กวนอิม ปีหนึ่งมี 3 ครั้ง คือวันที่ 19 เดือน 2 วันที่ 19 เดือน 6 และวันที่ 19 เดือน 9



  • ไหว้แป๊ะกงแซ ตรงกับวันที่ 14 เดือน 3



  • ไหว้เทพยดาผืนดิน คือไหว้โท้วตี่ซิ้ง ตรงกับวันที่ 29 เดือน 3



  • ไหว้อาพั๊ว คือการไหว้วันเกิดอาพั๊ว หรืออาพั๊วแซ ซึ่งอาพั๊ว หมายถึง พ่อซื้อแม่ซื้อผู้คุ้มครองเด็ก ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี



  • ไหว้เจ้าเตา คือไหว้วันที่ 24 เดือน 12 เรียกว่า ไหว้เจ๊าซิ้งขนมไหว้
    ซาลาเปา (หมี่ก้วย หรือ หมี่เปา)



  • ไม่มีไส้ เรียกว่า หมั่นโถว มีแบบที่ทำจาหัวมัน เนื้อออกสีเหลือง และแบบไม่ผสมมัน เนื้อออกสีขาว นิยมทำให้แตกเหมือนดอกไม้บาน ถ้าลูกเล็กจะแต้มจุดแดง ลูกใหญ่จะปั๊มตัวหนังสือสีแดง เขียนว่า ฮก แปลว่า โชคดี



  • มีไส้ นิยมไส้ เต้าซา แป้งไม่ผสมมัน หน้าไม่แตก มีตัวหนังสือปั๊มว่า เฮง แปลว่าโชคดี

    ซิ่วท้อ เป็นซาลาเปาพิเศษ ทำเป็นรูปลูกท้อ ใส้เต้าซา เพราะถือว่าเป็นผลไม้สวรรค์ ใช้ในงานวันเกิด ใครได้กินอายุจะยืนยาว

    หนึงกอ (ขนมไข่) ใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง

    ก๊าก้วย (ฮวกก้วย) "ฮวก" แปลว่า งอกงาม / "ก้วย" แปลว่า ขนม ใช้กับงานมงคลเป็นส่วนใหญ่ เช่นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ บนหน้าขนมปั๊มตัวหนังสือตรงกลาง "ฮวดไช้" คำที่อยู่รอบนอก คือ "เฮง" แปลว่า โชคดี

    คักท้อก้วย มีไส้ข้าว ไส้กุยช่าย ไส้ผัดผักกะหล่ำ ไส้ถั่ว นวดกับแป้งผสมสีแดง เป็นสีนำโชค ใช้ไหว้เจ้าที่ หรือไหว้บรรพบุรุษ

    จับกิ้ม (แต่เหลียง) หรือที่คนไทย เรียกว่า "ขนมจันอับ" ใช้ไหว้เจ้าได้ทุกประเภท ประกอบด้วยขนม 5 อย่าง คือ



  • เต้ายิ้งปัง คือ ขนมถั่วตัด



  • มั่วปัง คือ ขนมงาตัด



  • ซกซา คือ ถั่วเคลือบน้ำตาล



  • กวยแฉะ คือ ฟักเชื่อม



  • โหงวจ๊งปัง คือ ขนมข้าวพอง


    ตั่วเปี้ย คนไทยเรีกว่า "ขนมเปี๊ย"



  • แบบเจ เรียกว่า "เจเปี้ย" มีไส้มังสวิรัติ เช่น ไส้เต้าซา



  • แบบชอ เรียกว่า "ชอเปี้ย" ใส่มันหมู ใช้ไหว้เจ้าได้ทุกอย่าง
    ทึ้งถะ คือ เจดีย์น้ำตาล ซึ่งต้องมีทึ้งไซ หรือสิงห์น้ำตาล มีไว้เพื่ออารักขาเจดีย์ ใช้ไหว้เทพยดาฟ้าดิน ในวันที่ 9 เดือน 1 ของทุกปีและสามรถใช้ไหว้เจ้าแม่กวนอิมในวันไหว้พระจันทร์ได้

    โหงวก้วย-โหงวอั้ง หรือขนมลูกหลาน ใช้ไหว้คนตายในงานศพเท่านั้น ทำจากแป้งข้าวเจ้า ทั้งแบบเกลี้ยง และแบบแต่งถั่วดำ กินไม่อร่อย แต่ใช้ในการทำพิธี

    น้ำตาล นำน้ำตาลมาใส่ถุง ติดกระดาษแดง สามารถใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง

    กระดาษเงินกระดาษทองคนจีนเชื่อกันว่า เมื่อตายไปแล้วจะไปยังอีกภพโลกหนึ่ง เรียกว่า "อิมกัง" ดังนั้นลูกหลานจึงต้องส่งเงินทองไปให้ เพื่อแสดงความกตัญญู ด้วยการไหว้เจ้า แล้วเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ และการไหว้เจ้ายังเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลาน ให้มีความสุขความเจริญ ซึ่งกระดาษเงินกระดาษทองบางแบบใช้ไหว้เจ้า บางแบบใช้ไหว้บรรพบุรุษ

    กอจี๊ หรือ จี๊จุ้ย เป็นกระดาษเงินกระดาษทองชิ้นใหญ่ มีกระดาษแดงตัดเป็นลายตัวหนังสือว่า "เผ่งอัน" เป็นคำอวยพร แปลว่า โชคดดีใช้สำหรับไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพยดาฟ้าดิน

    กิมจั้ว หรือ งึ้งจั๊ว หมายถึงกระดาษเงินกระดาษทอง เวลาจะไหว้จะทำเป็นชุด ก่อนไหว้ลูกหลานจ้องนำมาพับเป็นรูปดอกไม้ ใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง

    กิมเต้า หรือ งึ้งเต้า หรือถังเงินถังทอง ใช้ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพยดาฟ้าดิน

    กิมเตี๊ยว คือ แท่งทอง ใช้ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้คนตาย

    ค้อซี คือ กระดาษทอง ก่อนใช้ให้พับเป็นรูปร่างก่อน เช่น พับเป็นเรือ เรียกว่า "เคี้ยวเท่าซี" เชื่อกันว่าการพับเรือ จะไก้มูลค่าสูงกว่าการพับอย่างอื่นใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง รวมทั้งไหว้คนตาย โดยเฉพาะพิธีทำกงเต๊ก ลูกหลานต้องพับค้อซี ให้มากที่สุด

    อิมกังจัวยี่ คือแบงก์กงเต็กนั่นเอง

    อ่วงแซจิ่ว ใช้เผาเป็นใบเบิกทาง ไปสวรรค์สำหรับผู้ตาย

    เพ้า คือ ชุดของเทพเจ้า คล้ายกับที่คนไทยถวายผ้าห่มพระพุทธรูป มีการทำของเจ้าหลายองค์ เช่น ชุดของเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม พระพุทธ

    ตั้วกิม
    เป็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ญาติสนิทนำไปไหว้ผู้ตายการเผากระดาษเงินกระดาษทองจะต้องทิ้งไว้สักพัก


    เพื่อให้ทุกคนได้เส้นไหว้เสร็จ ก็จะทำการ "เหี่ยม" หรือจบเหนือศีรษะ ระหว่างนี้ให้ทำการอธิฐานขอพรไปด้วย แล้วจึงนำไปเผา เมื่อไฟมอดแล้วจึงไหว้ลา เป็นการเสร็จพิธี

    ผลไม้ไหว้เจ้า  ส้ม คำจีนเรียกว่า "ไต้กิก" แปลว่า โชคดี
    องุ่น คำจีนเรียกว่า "พู่ท้อ" หมายถึง งอกงาม

    สับประรด คำจีนเรียกว่า "อั้งไล้" แปลว่า มีโชคมาหา

    กล้วย คำจีนเรียกว่า "เกงเจีย" มีความหมายถึงการมีลูกหลานสืบสกุล


  • วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553






    อาจารย์พ่อ และ อาจารย์แม่   ที่เด็ก602  รักและเคารพ   คืออาจารย์  บุญธรรม   ทองอนันต์
    อาจารย์  วรรณี    ทองกัน





    ทีมงาน  เพื่อนเราเพ 602      มีดังนี้
    ใหม่
      ดามพ์
      แป้ง
      เค
      มิ่ง
    เบว
       ย้อย 
       แบงค์ 
      ชวน 
     เจมส์
    บอย
       เฟิร์น 
      แพรว
       ออ 
      อาย
    ฝ้าย 
      ป๊อบ
        เตย
       เจี๊ยบ 
      มีน
    ขิ้ว
       ติ๊ก
       ปิค
       สวย  

    ผมมีกลอนมาให้สำหรับเพื่อนๆทุกๆคน



    คอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง คอยฟัง ยามเพื่อนขอ
    คอยรอ ยามเพื่อนสาย คอยพาย ยามเพื่อนพัก
    คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์ คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ
    คอยง้อ ยามเพื่อนงอน คอยสอน ยามเพื่อนผิด
    คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ คอยเจอ ยามเพื่อนหา
    คอยลา ยามเพื่อนกลับ คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน
    คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น
    คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน คอยหอน ยามเพื่อนเห่า
    คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ คอยอุบ ยามเพื่อนปิด
    คอยคิด ยามเพื่อนถาม คอยปราม ยามเพื่อนหลง
    คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด
    คอยอด ยามเพื่อนทาน คอยคาน ยามเพื่อนล้ม
    คอยชม ยามเพื่อนชนะ คอยสละ ยามเพื่อนชอบ

    คำว่าเพื่อน มีค่าหนัก กว่าคำไหน
    คำว่าเพื่อน คือค่าใจ และค่าจิต
    คำว่าเพื่อน ควรค่า คะนึงคิด
    คำว่าเพื่อน คือมิตร ตลอดกาล


    แล้ว เพื่อน ในความหมายของคุณล่ะ....เป็นแบบนี้มั๊ย
    อย่าลืมให้ความสำคัญกับคนที่คุณเรียกว่า เพื่อน นะ โดยเฉพาะถ้าเค้าคือ เพื่อน จริงๆ
    ... เธอทุกข์ - ฉันทุกข์ เธอสุข – ฉันสุข...



     

    คำศัพท์

    แมนยูคือชีวิต: การพูดโทรศั
    1 . Dvorak Keyboard
    แป้นพิมพ์ดีโวรักแป้นพิมพ์แบบพิเศษ ที่อ้างว่าจัดเรียงลำดับของแป้นอักษรและสัญลักษณ์ เพื่อให้สะดวกในการใช้สอยสูงสุด เช่นตัวอักษร e ที่ใช้บ่อยนั้นจะอยู่ในแถวกลาง ทำให้การเคลื่อนไหวของมือน้อยลงเวลาพิมพ์ ปัจจุบันนี้ระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่ รองรับผังแป้นพิมพ์ Dvorak แต่กลับมีคนรู้จักน้อยและไม่นิยมใช้กันเท่าใดนัก

    2 . VoIP
    (Voice over Internet Protocal) เป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับการโทรศัพท์ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยมีข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโทรได้ ไม่ว่าจะเป็นการโทรภายในประเทศหรือการโทรระหว่างประเทศ เพราะการโทรศัพท์ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำงานผ่านทางชุมสายโทรศัพท์ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายของส่วนที่ให้บริการด้วย แต่การโทรศัพท์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้นจะเป็นการทำงานโดยอาศัยหลักการเดียวกับการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นการประยุกต์การส่งข้อมูลของอินเทอร์เน็ตมาใช้งานเพราะโดยปกติการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะเป็นการใช้สัญญาณข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับการใช้งาน VoIP นั้นจะเป็นการนำเอาสัญญาณเสียงมารวมเข้ากับสัญญาณข้อมูลเพื่อส่งผ่านไปยัง ระบบเครือข่ายผ่านทางโพรโตคอลที่ใช้สำหรับอินเทอร์เน็ตก็คือ Internet Protocol หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า IP ซึ่งตามปกตินั้น IP จะใช้สัญญาณข้อมูลเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยี VoIP ที่ทำให้ส่งสัญญาณเสียงได้ ด้วยรูปแบบการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตจึงทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการ โทรศัพท์ได้เป็นอย่างมาก

    3 . My Space
    My Space (มายสเปส) เป็นลูกเล่นใหม่ของ MSN ที่เปิดตัวพร้อมกับ MSN เวอร์ชัน 7 ที่อนุญาติให้ผู้ใช้ MSN มีเวบส่วนตัว ที่คนส่วนมากเรียกกันทั่วๆ ไปว่า Blog ซึ่งคล้ายๆไดอารี่ออนไลน์

    4 . Hi5
    Hi5 (ไฮไฟว์) เป็นระบบอินเตอร์เน็ตออนไลน์ที่มีการเชิญเพื่อนจากรายชื่อเพื่อนในอีเมลต่างๆสมัครเข้ามาเป็นเพื่อนของเรา โดยระบบจะทำการแอดเมล์เพื่อนให้ รูปแบบทั่วไปภายใน Hi5 จะมีทั้งการโชว์รูปภาพ เพื่อฟรีเซ็นต์ตัวเอง เราได้แสดงความเป็นตัวตนของเราอย่างภาคภูมิใจ ด้วยการสร้างและตกแต่ง Hi5 ของเราด้วย ของแต่ง Hi5 ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ , Wallpaper, Skin, ดุ๊กดิ๊ก , Cursor , ภาพเคลื่อนไหว และของแต่ง Hi5 อื่นๆ อีกมากมายมีพื้นที่ให้เขียนเรื่องราวส่วนตัวอีกด้วย

    5 . Social Network
    คือเครือขายสังคมออนไลน์เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ ในการสร้างเครือข่ายสังคม สำหรับผู้ใช้งานในอินเทอร์เน็ต เขียนและอธิบายความสนใจ และกิจการที่ได้ทำ และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น ในบริการเครือข่ายสังคมมักจะประกอบไปด้วย การแช็ต ส่งข้อความ ส่งอีเมล วิดีโอ เพลง อัปโหลดรูป บล็อก เล่นเกม เป็นต้น บริการเครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมได้แก่ Facebook, Twitter, Hi5, MySpace, Youtube เป็นต้นโดยเว็บไซต์เหล่านี้มีผู้เข้าบริการใช้มากมาย

    6 . Twitter
    Twitter (ทวิตเตอร์) คือเว็บไซต์ที่ให้บริการ blog สั้นๆหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า Micro-Blog ซึ่งสามารถให้ผู้ใช้ส่งข้อความของตนเอง ให้เพื่อน ๆ ที่ติดตาม twitter ของเราอยู่อ่านได้ และเราเองก็สามารถอ่านข้อความของเพื่อน หรือคนที่เราติดตามเค้าอยู่ได้ ซึ่ง twitter ก็ถือได้ว่าเป็นเว็บไซต์ประเภท social Media ในรูปแบบของ twitter นี้ ที่เรียกว่าเป็น blog สั้นก็เพราะว่า twitter ให้เขียนข้อความได้ครั้งละไม่เกิน 140 ตัวอักษร ซึ่งข้อความนี้เมื่อเขียนแล้วจะไปแสดงอยู่ในหน้า profile ของผู้เขียนนั่นเอง และจะทำการส่งข้อความนี้ไปยังสมาชิกที่ติดตามผู้เขียนคนนั้นอยู่ (follower) โดยอัตโนมัติ

    7 . Facebook
    Facebook (เฟสบุ๊ค) คือบริการบนอินเทอร์เน็ตบริการหนึ่ง ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารและร่วมทำกิจกรรมใดกิจกรรม หนึ่งหรือหลายๆ กิจกรรมกับผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ ได้ ไม่ ว่าจะเป็นการตั้งประเด็นถามตอบในเรื่องที่สนใจ, โพสต์รูปภาพ , โพสต์คลิปวิดีโอ, แชทคุยกันแบบสดๆ, เขียนบทความหรือบล็อก, เล่นเกมส์แบบเป็นกลุ่ม (เป็นที่นิยมกันอย่างมาก) และยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ผ่านแอพลิเคชั่นเสริม (Applications) ที่มีอยู่อย่างมากมาย ซึ่งแอพลิเคชั่นดังกล่าวได้ถูกพัฒนาเข้ามาเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ

    8 . Jack
    คือที่เสียบสายไฟ, ช่องเสียบปลั๊ก, ช่องสำหรับเสียบสายต่อต่าง ๆ

    9 . Nano
    ใช้คำย่อว่า n, นาโน, คำนำหน้าที่มีความหมายว่า 1 ส่วนพันล้าน เช่น นาโนกรัมมีค่าเท่ากับ 1 ส่วนพันล้านกรัม นาโนวินาทีมีค่าเท่ากับ 1 ส่วนพันล้านวินาที

    10 . ZIP
    การสร้างแฟ้มซิปที่ถูกย่อขนาดด้วยโปรแกรม PKZIP แฟ้มซิปอาจจะมีขนาดเล็กลง 5 เปอร์เซ็นต์ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ จากแฟ้มเดิม ถ้ามีแฟ้มหลายแฟ้มนำมาย่อพร้อมกัน การย่อขนาดแฟ้มเช่นนี้มีประโยชน์ต่อการรับส่งแฟ้มผ่านทางโมเด็มหรือเพื่อลดพื้นที่บนดิสก์

    11 . Zip file
    คือแฟ้มที่ผ่านการบีบอัดด้วยโปรแกรม pkzip หรือ winzip ให้มีขนาดของไฟล์ที่เล็กลงเพื่อให้สามารถส่งได้ง่ายขึ้น

    12 . Zoom
    เป็นการขยายขนาดเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัด, ความสามารถในการเปลี่ยนข้อมูลที่ปรากฏบนจอภาพ การซูมเข้าจะเป็นการขยายข้อมูลทำให้ปรากฏเป็นภาพใหญ่มากขึ้นบนจอภาพ หรือจะซูมออกเพื่อดูความสัมพันธ์ของข้อมูลในหน้ากระดาษ

    13 . Banner
    คือป้ายแบนเนอร์, ป้ายโฆษณาออนไลน์, ป้ายประกาศออนไลน์ ซึ่งจะทำการติดไว้ในหน้าเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต

    14 . Bandwidth
    เป็นความสามารถของการเชื่อมต่อเครือข่าย โดย Bandwidth จะบ่งบอกถึงจำนวนของข้อมูลที่สามารถส่งไปตามเครือข่ายได้ ยิ่งมีจำนวน Bandwidth มากท่าไหร่ ก็หมายถึงว่าจะสามารถดาวน์โหลดข้อมูล (ผ่านเครือข่าย) ได้เร็วขึ้นเท่านั้น โดยมากจะใช้กล่าวถึงในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและการเชื่อมต่อในเครือข่ายของมือถือ เป็นต้น

    15 . Background
    หมายถึงภาพแบ็คกราวด์, สีพื้นฉากหลัง, กระบวนการเบื้องหลัง และถ้าใช้กับจอภาพ หมายถึง สีพื้นซึ่งข้อความหรือตัวอักษรปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ เช่น อักษรสีขาวบนพื้นสีน้ำตาล

    16 . Attach
    การแนบแฟ้มเอกสารหรือรูปภาพไปกับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

    17 . app (Application)
    ใช้คำย่อว่า app, ระบบงาน, โปรแกรมซึ่งทำหน้าที่ช่วยผู้ใช้งานเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง, คำนี้เมื่อนำมาประกอบกับคำว่า application เป็นคำใหม่ คือ application program หรือนิยมเรียกว่า โปรแกรมประยุกต์ หรือเป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งของโปรแกรมที่มักจะออกแบบเฉพาะงานได้แก่ เวิร์ดโปรเซสเซอร์ สเปรดชีตฐานข้อมูล คำว่า “ ระบบงาน ” หมายถึง สิ่งที่ทำให้งานเสร็จหรือเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่บางคนรู้สึกกับคำว่าโปรแกรมเหมือนกับงานที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ โดยทั่วไปโปรแกรมระบบงานจะแตกต่างจากซอฟต์แวร์ระบบ ตัวอย่างชองซอฟต์แวร์ระบบ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ หรือโปรแกรมที่นำแฟ้มที่ลบไปแล้วกลับมาใช้งาน และภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใช้เพื่อสร้างระบบงานใหม่

    18 . 3D Stereo
    คือการพัฒนาเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือโดยให้มีกา รสั่นตามจังหวะเสียงเพลง และในมือถือบางรุ่นอาจให้มีการเพิ่มไฟกระพริบที่สามารถกระพริบได้ตามจังหวะเสียงเพลงอีกด้วย

    19 . MMC Card (Multi Media Card )
    เป็นการออกมาเพื่อรองรับกับอุปกรณ์ที่เป็นดิจิตอลในปัจจุบัน MMC Card มีน้ำหนักประมาณ 2 กรัม และขนาดประมาณดวงแสตมป์เท่านั้น แต่ถึงจะมีขนาดเล็ก แต่ความสามารถของมันนั้นสูงมาก สามารถบันทึกหรืออัดเก็บข้อมูลได้เป็นล้านตัวอักษร อุปกรณ์พกพาสมัยนี้ต้องใช้ Card แทบทั้งสิ้น เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่, ปาล์ม, Pocket PC, กล้อง Digital, กล้อง Video Digital หรืออุปกรณ์จำพวก MP3/MP4 Player

    20 . Video Streaming
    คือบริการดูรายการโทรทัศน์ รวมถึงภาพเคลื่อนไหวที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่นวิดีโอ ผ่านโครงข่าย GPRS, Multislot, HSCSD หรือ EDGE ไปยังโทรศัพท์มือถือที่มีโปรแกรมWindow Media Player, Real Player, PV Player สนับสนุนอยู่นั้นก็จะทำให้เราได้ไฟล์วิดีโอหรือรายการเอาไว้ดูภาพเคลื่อนไหวเป็นฉาก ๆ ได้

    21 . .3GP (third generation platform)
    คือไฟล์ฟอร์มแมตที่ใช้บนมือถือ สำหรับเก็บไฟล์วิดีโอและเสียงโดยฟอร์แมตนี้จะเก็บไฟล์วิดีโอที่มีการเข้า รหัสข้อมูลแบบMPEG 4 หรือ H.263 และไฟล์เสียงที่เข้ารหัสข้อมูลแบบ AAC-LC หรือ AMR-NB

    22 . 3G (Third Generation)
    เป็นการสื่อสารไร้สายยุคที่ 3 นับจากยุคที่ 1 คือยุคแอนะล็อก และยุคที่ 2 คือยุคดิจิตอล ส่วนยุคที่ 3 คือยุคการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง การพัฒนาของ 3G ทำให้เกิดการใช้บริการมัลติมีเดียและส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตรา ความเร็วที่สูงขึ้น โดยอุปกรณ์ที่ใช้นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ผสมผสานการนำเสนอข้อมูล และเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้าด้วยกันเช่น PDA, โทรศัพท์มือถือ, Smart Phone, Walkman , กล้องถ่ายรูป ,และอินเทอร์เน็ต

    23 . Flight Mode/Airplane Mode
    คือโหมดตัดคลื่นสัญญาณที่ใช้ในการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของคลื่นวิทยุที่ใช้ในระบบการนำทางและการบินแต่ ยังสามารถใช้งานเมนูอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้คลื่นสัญญาณ เช่น การเล่นเกมแบบไม่ออนไลน์ ออร์แกนไนเซอร์

    24 . Airplane Mode/Flight Mode
    คือโหมดตัดคลื่นสัญญาณที่ใช้ในการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของคลื่นวิทยุที่ใช้ในระบบการนำทางและการบินแต่ยังสามารถใช้งานเมนูอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้คลื่นสัญญาณ เช่น การเล่นเกมแบบไม่ออนไลน์ ออร์แกนไนเซอร์

    25 . Dual Display
    เป็นชนิดของหน้าจอโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับ (Clam Shell) ที่บางรุ่นจะมีหน้าจอที่สองอยู่บนฝาพับให้ด้วย จึงสามารถรู้ได้ทันทีว่ามีใครโทรมาได้รับ SMS หรือ MMS ส่งมากี่ข้อความแล้ว โดยที่เราไม่ต้องเปิดฝาพับดูหน้าจอหลักข้างใน

    26 . Dual Mode
    คือเครื่องโทรศัพท์มือถือที่สามารถรองรับสัญญาณได้ 2 ระบบ เช่น ใช้ได้ทั้งในระบบ GSM และ CDMA หรือเครื่องที่รองรับทั้งระบบแอนะล็อกและดิจิตอล รวมถึงรองรับทั้ง 2G และ 3G

    27 . eAAC+
    เป็นไฟล์เสียงที่ให้คุณภาพเสียงระดับสเตอริโอ จึงให้เสียงที่ดีกว่า MP3 รวมทั้งมีขนาดไฟล์เล็กกว่าด้วย โดยเป็นการพัฒนาต่อจาก AAC+

    28 . FWR (Finger Writing Recognition)
    คือระบบจดจำลายมือ โดยที่เราสามารถใช้นิ้วมือของเราเขียนข้อความต่าง ๆ ที่หน้าจอ Touchscreen แทนปากกา Stylus ซึ่งจะต่างกับระบบ Hand Writing Recognition ตรงที่จะต้องใช้ปากกา Stylus ในการเขียนข้อความนั่นเอง

    29 . PDA (Personal Digital Assistant)
    คือเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กสามารถใช้จดบันทึกต่างๆ และสามารถพกพาติดตัวไปได้โดยสะดวก และให้คุณเก็บบันทึกหมายเลขโทรศัพท์คอมพิวเตอร์ชนิดนี้จะมีโทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ PCMCIA และเวิร์ดโปรเซสเซอร์ง่าย ๆรวมเข้าไว้ในเครื่องเดียว

    30 . LED (Light-Emitting Diode)
    เป็นอุปกรณ์กึ่งตัวนำขนาดเล็กที่เปล่งแสงเมื่อกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน อย่างเช่นนาฬิกาแบบดิจิตอลใช้ LED เพื่อแสดงตัวเลข นอกจากนี้ยังใช้เป็นไฟบอกการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์และโมเด็ม เป็นต้น

    31 . Push Mail
    ระบบอีเมลแบบไร้สาย (Wireless e-mail) ทำให้คุณสามารถเปิดรับอีเมล, ข้อมูลบุคคล (contacts), กำหนดการปฎิบัติงาน (Task), ปฎิทิน (calendar) ได้ทางโทรศัพท์มือถือของคุณทุกที่ทุกเวลา

    32 . Pull Mail
    คือการดึงอีเมล์ผ่าน WEP หรือการดาวน์โหลดต้นฉบับอีเมล์มาอยู่ที่หน้าจอมือถือ ซึ่งการเช็คอีเมล์โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่ใช้มือถือทุกรุ่นที่รองรับ WEP และใช้เครือข่าย GPRS ได้ ปกติแล้ววิธีนี้จะไม่มีการแจ้งเตือนเมื่อมีอีเมล์เข้ามา แต่ผู้ใช้สามารถสมัครบริการ SMS Alert กับทางผู้ให้บริการอีเมล์ที่ใช้งานอยู่ได้และอาจมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม ในส่วนนี้ต่างหาก

    33 . Video Call
    เป็นการสนทนาที่สามารถเห็นหน้ากันระหว่างบุคคลได้บนหน้าจอมือถือแบบเรียลไทม์ โดยผ่านเทคโนโลยี 3G ซึ่งโทรศัพท์มือถือที่ใช้ก็ต้องรองรับเทคโนโลยีนี้และมีฟังก์ชั่น VDO Call ด้วยซึ่งจะสามารถใช้งานได้

    34 . Ringer ID
    คือเสียงเรียกเฉพาะตัว หรือเสียงเรียกตามชื่อที่ตั้งไว้ โดยผู้ใช้โทรศัพท์จะกำหนดโทนเสียงหรือเสียงเพลงที่ต้องการเจาะจงลงไปสำหรับรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์ทราบว่าใครโทรเข้ามา ตามเสียงที่เรากำหนด

    35 . Slide Phone
    คือโทรศัพท์มือถือรูปแบบฝาสไลด์ มีจุดเด่นที่หน้าจอขนาดใหญ่และอยู่ด้านนอก เหมาะสำหรับการใช้งานด้านมัลติมีเดียที่ต้องโชว์รูปภาพ เมื่อเลื่อนหน้าจอขึ้นก็จะมีแผงปุ่มกดอยู่ด้านใน ต้องระวังเรื่องการเกิดรอยขีดบนหน้าจอเป็นพิเศษ และควรระวังเรื่องการตกกระแทก เพราะบริเวณฝาสไลด์จะบอบบาง ทำให้เสียง่ายเหมือนแบบฝาพับ

    36 . Smart Phone
    คือโทรศัพท์ที่ไม่ได้มีใช้โทรเข้า - ออกธรรมดาอย่งเดียว แต่ยังได้รวมความเป็นพีดีเอหรือคอมพิวเตอร์มือถือรวมเข้ามาอยู่ภายในตัวด้วย ทำให้เราสามารถใช้งานในส่วนของออร์แกไนเซอร์ เพื่อจดบันทึกรายการต่าง ๆ ได้สมบูรณ์แบบ อีกทั้งการเชื่อมต่อข้อมูลก็สามารถทำได้หลากหลายขึ้น พร้อมกับโปรแกรมการใช้งานที่มากมายอีกด้วย

    37 . Stop Motion
    คือการถ่ายภาพนิ่งหลายๆ ภาพแล้วเอาไปต่อกันเป็นภาพเคลื่อนไหวค่ะ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงเวลาวาดหนังการ์ตูน ที่ต้องวาดภาพหลายๆ ภาพแล้วเอาไปต่อๆ กันให้มันเคลื่อนไหว

    38 . Animation
    การใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพเคลื่อนไหว ตามภาพที่สร้างขึ้นหรือได้วาดเอาไว้, การทำให้ภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยการแสดงผลภาพชุดหนึ่งที่เร็วมาก ๆ จนเรามองเป็นภาพต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละภาพจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แอนิเมชันเราจะเห้นได้บ่อยๆจากการสร้างภาพยนตร์การ์ตูน เกมในคอมพิวเตอร์ด้วย

    39 . Accessory
    คืออุปกรณ์ประกอบเพิ่มเติม สำหรับโทรศัพท์มือถือเช่น หูฟัง ซอง สายคล้องโทรศัพท์ เป็นต้น สำหรับคอมพิวเตอร์ เช่น โมเด็ม เมาส์ เป็นต้น

    40 . Update
    ทำให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบใหม่ให้ทันสมัยขึ้น
    พท์
    : "

    ภาพการพูดโทรศัพท์

    การพูดโทรศัพท์

    ภาษาอังกฤษในการพูดโทรศัพท์ที่คุณควรรู้
    ภาษาอังกฤษในการพูดโทรศัพท์ที่คุณควรรู้
    คนที่เรียนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่รู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์นั้นไม่ง่ายเท่าไหร่เลย แต่ถ้าหากว่าคุณเดินทางไปต่างประเทศหรือทำงานให้กับบริษัทต่างชาติ การพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณต้องทำได้ แล้วคุณจะจัดการปัญหานี้อย่างไรล่ะ? เตรียมพร้อมสำหรับการพูดโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคและประโยคต่อไปนี้
    Introductions
    เริ่มการสนทนาทางโทรศัพท์ด้วยการแนะนำตัวเอง เช่น"Hello, this is Peter Jones. ถ้าคุณรับโทรศัพท์แล้วผู้ที่โทรเข้าไม่ได้แนะนำตัวเขา คุณก็ถามได้ว่า"May I ask who's calling, please?"
    Asking for someone / Making a request
    ถ้าคุณโทรศัพท์และต้องการเจาะจงคนที่อยากพูดด้วย ควรใช้คำพูดอย่างสุภาพในการถามหาคนนั้น เช่น "May I speak to Rachel Smith, please?" หรือถ้าคุณมีเบอร์ต่อแต่ไม่ทราบชื่อของเจ้าของเบอร์นั้น คุณควรพูดว่า "Could I have extension number 635?" แต่ถ้าโทรเพื่อจุดประสงค์ชัดเจนไม่ได้อยากคุยกับใครเป็นการเจาะจง คุณควรชี้ชัดถึงวัตถุประสงค์ในการโทรของคุณ เช่น"I’m calling to make a reservation."
    ถือสายรอหรือโอนสาย
    "Please hold"เป็นภาษาทางโทรศัพท์ที่หมายถึง "รอสักครู่" ถ้าคุณจำเป็นต้องถูก transferred (โอนสาย) ไปที่เบอร์ต่ออื่น คุณมักจะได้ยินการบอกกล่าวว่า"Connecting your call..." หรือ "Please hold, I'll transfer you." ถ้าคุณติดต่อทางธุรกิจในช่วงเวลาที่ยุ่งๆ คุณอาจได้ยินเพียงคำบอกสั้นๆ ให้ถือสายรอว่า"Hello, please hold!" ก่อนที่โอปะเรเตอร์จะตัดไปรับสายอื่น
    ฝากข้อความ
    ถ้าคุณที่คุณอยากพูดสายด้วยไม่สามารถรับสายได้ คุณควรเตรียมฝากข้อความทิ้งเอาไว้ คุณอาจใช้voicemail (บันทึกเสียงฝากข้อความระบบดิจิตอล) หรือ answering machine (เครื่องบันทึกเสียงที่อัดลงบนเทป) ถ้าคุณกำลังพูดอยู่กับโอปะเรเตอร์ คุณอาจถูกถามว่า"Would you like to leave a message?" หรือคุณอาจพูดเองว่า "May I leave a message?" อย่าลืมทิ้งเบอร์คุณไว้ถ้าคุณอยากให้เขาติดต่อกลับ และเบอร์นี้เรียกว่าcall back number
    ขอให้อีกฝ่ายพูดช้าลง
    ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าคุณจะเข้าใจทุกอย่างที่พูดมาเป็นภาษาอังกฤษ ก็ควรยอมรับความจริงและบอกผู้ที่พูดสายด้วยทันทีว่า"My English isn't very strong, could you please speak slowly?" คนส่วนใหญ่จะเข้าใจและพอใจความตรงไปตรงมาของคุณและพร้อมที่จะทำตามที่คุณขอร้อง
    จดประโยคที่จะพูดลงในกระดาษ
    ถ้าคุณรู้สึกประหม่ากับการพูดโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษล่ะก็ คุณควรเขียนประโยคที่อยากจะพูดลงในกระดาษไว้ก่อน ลองเขียนคร่าวๆ ว่าคุณต้องพูดว่าอะไรบ้าง คุณสามารถใช้บันทึกนั้นในการเรียบเรียงความคิดของคุณล่วงหน้าหรือใช้เป็นหลักอ้างอิงเมื่อคุณเกิดความสับสนทางความคิดขึ้นมาระหว่างการพูดโทรศัพท์
    อย่าลืมรักษามารยาท
    สิ่งที่สำคัญในการพูดโทรศัพท์คือการใช้คำและน้ำเสียงที่สุภาพเรียบร้อย เมื่อต้องการขอร้องให้ใครทำอะไรให้ คุณควรใช้คำต่อไปนี้ในประโยคด้วย ไม่ว่าจะเป็น , 'Could you', และ 'Please' แล้วอย่าลืมจบการสนทนาด้วยคำว่า'Thank you' และ 'Goodbye'

    วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    การพูดโทรศัพท์

    การพูดโทรศัพท์ ( Talking on the phone )

    Roi : Hello. This is 043-851249. Roi, speaking. May I help you ?
    ( เฮลโล่ ธิซ อิซ โอโฟทรีเอ้ดไฟว์วันทูโฟว์ไนท์ รอย สปีคคิง เมย์ ไอ เฮลพ์ ยู )
    สวัสดีครับ ที่นี่หมายเลขศูนย์สี่สามแปดห้าหนึ่งสองสี่เก้า รอยพูดครับ ให้ช่วยอะไรครับ


    Tom : May I speak to Nida, please? Is she in ?
    ( เมย์ ไอ สปีค ทุ นิดา พลีสซ์ อีซ ชี อิน )
    ขอสายคุณนิดาด้วยครับไม่ทราบว่าอยู่ไหม


    Roi : Yes, hold the line a moment, please. I’ll see if she’s in
    ( เย้ส โฮลด์ เธอะ ไลน์ อะ โมเม่นท์ พลีส ไออิล ชี อิฟ ชีสซ์ อิน )
    ครับ กรุณาถือสายรอสักครู่ ผมจะดูก่อนว่าเขาอยู่ไหม (ครู่หนึ่งต่อมา รอยจึงพูดต่อ)


    Oh, she is now talking to someone on another phone
    ( โอ้, ชี อิสซ์ นาว ทอคกิ้ง ทู ซัมวัน ออน อะนัทเธ่อ โฟน )
    อ้อ เขากำลังพูดอยู่อีกเครื่องหนึ่งครับ


    Would you like to tell her to call you back ?
    ( วุ้ด ยู ไลค์ ทู เทล เฮอร์ ทู คอลล์ ยู แบ้ค )
    จะให้ผมบอกเขาโทรกลับไหมครับ


    Tom : No. Thank you. I’ll call again in a while
    ( โน. แธ้งค์ กิ่ว ไออิล คอลล์ อะเกน อิน อะไวล์ )
    ไม่ละครับ ขอบคุณ ผมจะโทรกลับเองอีกสักครู่


    Roi : Would you wish to leave a message for her ?
    ( วุ้ด ยู วิช ทู ลีฟว์ อะเม้ซเสจ ฟอร์ เฮอ )
    คุณจะสั่งอะไรถึงหล่อนไหมครับ


    Who shall I say have call ?
    ( ฮู แซลล์ ไอ เซ แฮฝ คอลด์ )
    จะให้ผมเรียนเขาว่าใครโทรฯ มาครับ


    Tom : Tell her that I’m Tom, her old friend.
    ( เทล เฮอ แธ่ท อาม ทอม เฮอร์ โอนด์ เฟรนด์ )
    บอกเขาด้วยว่า ผมทอมเป็นเพื่อนเก่า


    Roi : I will. Bye.
    ( ไอ วิวล์ บาย )
    แล้วผมจะบอกให้นะครับ สวัสดีครับ